ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

บทความ

กำลังแสดงโพสต์ที่มีป้ายกำกับ คำสอนแห่งปัญญา

ไม่คบคนพาล ให้คบบัณฑิต หมายความว่าไง?

ไม่คบคนพาล ให้คบบัณฑิต หมายความว่าไง? เป็นข้อแรกและ ข้อสอง อยู่ในลำดับต้นๆ ของ มงคล 38 ประการ ขององค์สัมมาสัมพุทธเจ้า แสดงว่าต้องสำคัญเป็นแน่แท้ ท่านจึงนำมาไว้เป็นอันดับต้นๆเช่นนี้ มาดูกันครับว่า คนพาลในความหมายนี้ เป็นอย่างไร? เมื่อรู้แล้วจะหลีกหนี้ไว้ให้ห่างๆ และ บัณฑิต นั้นเป็นอย่างไร? อย่าได้คบหาสมาคมผูกสมัครรักใคร่ ไปมาหาสู่กับคนพาล ถามว่าคนพาลคือ คนประเภทไหน ก็คือคนที่ตัดทำลายประโยชน์ในชาตินี้ และ ประโยชน์ในชาติหน้า การตัดประโยชน์ในชาตินี้ มี 4 ประการ คือ 1. เป็นคนเกียจคร้านไม่แสวงหาความรู้และทำการงานที่จะนำมาซึ่งลาภผล 2. ไม่รักษาทรัพย์ของตนด้วยกุศโลบายที่ดี 3. ใช้จ่ายทรัพย์สินไม่ตามสมควรแก่ฐานะ 4. ชอบคบคนชั่วช้าคนพาลสันดานหยาบ การตัดประโยชน์ในชาติหน้ามี 5 ประการ คือ 1. ไม่มีศรัทธาในคุณพระรัตนตรัย 2. ไม่มีศีลซึ่งเป็นเครื่องรักษากายวาจาให้เรียบร้อย 3. ไม่ยินดีในการศึกษาเล่าเรียนสดับตรับฟังพระสัทธรรม 4. มีความตระหนี่ไม่รู้จักการเสียสละบริจาคทาน 5. ไม่มีปัญญาที่จะพิจารณาสังขารธรรมตามความเป็นจริง ผู้ที่ตัดทำลายประโยชน์ในชาตินี้และชาติหน้าดังกล่าวข้างต้นชื่อว่า

คิดเป็นโจร ต้องสูตรมหาโจร

มหาโจรประกอบด้วยองค์ 8 ประการนี้ ย่อมนำมาซึ่งความเสื่อม ตั้งอยู่ไม่นาน( อาชีพโจรจบเร็ว ) ประหารคนที่ไม่ประหารตอบ (ฆ่าคนที่ไม่สมควรฆ่า) ถือเอาสิ่งของไม่เหลือ (คือไม่เหลืออะไรเลยเอาไปหมด) ลักพาสตรี (ฉุดผู้หญิง) ประทุษร้ายกุมารี (ทำร้ายเด็ก) ปล้นบรรพชิต (ปล้น ชิง ขโมย ของนักบวช) ปล้นราชทรัพย์ (ปล้น ชิง ขโมย ของราชการของหลวง) ทำงานใกล้ถิ่นเกินไป (หากินใกล้ที่ซุกหัวนอนมากเกินไป) ไม่ฉลาดในการเก็บ (ได้มาไม่เคยเก็บ ไม่รุ้จักเก็บ) มหาโจรประกอบด้วยองค์ 8 ประการนี้ ย่อมไม่เสื่อมเร็ว ตั้งอยู่ได้นาน ( ดำรงอาชีพนี้ได้นาน ) ไม่ประหารคนที่ไม่ประหาร (คนที่ไม่ควรฆ่าก็จะปล่อยไป) ไม่ถือเอาของจนไม่เหลือ (เหลือให้เจ้าของทรัพย์) ไม่ลักพาสตรี (ไม่ลักพา ไม่ฉุดสตรี) ไม่ประทุษร้ายกุมารี (ไม่ทำร้าย เด็ก) ไม่ปล้นบรรพชิต (ละเว้นนักบวช) ไม่ปล้นราชทรัพย์ (ละเว้น ของหลวง ของราชการ ของแผ่นดิน) ไม่ทำงานใกล้ถิ่นเกินไป (ออกไปหากินไกลๆ ที่อยู่อาศัยของตัวเอง) ฉลาดในการเก็บ (ได้ของมาให้รู้จักใช้ รู้เก็บ) ถึงแม้จะเป็นโจร ก็ต้องไม่โง่นะครับ จะมาหลับหูหลับตาเลวอย่างเดียวก็ไม่ได้ แต่อย่าเป็นโจรดีที่ส

มงคล คือเหตุแห่งความสุข

มงคล คือ เหตุแห่งความสุข ความก้าวหน้าในการดำเนินชีวิต ซึ่งพระพุทธเจ้าได้ทรงแสดงไว้ให้พุทธศาสนิกชนได้พึงปฏิบัติ นำมาจากบทมงคลสูตรที่พระพุทธเจ้าตรัสตอบปัญหาเทวดาที่ถามว่าคุณธรรมอันใดที่ทำให้ชีวิตประสบความเจริญ หรือ มี "มงคลชีวิต" ซึ่งมี ๓๘ ประการได้แก่ ๑. การไม่คบคนพาล                  ๒. การคบบัญฑิต ๓. การบูชาบุคคลที่ควรบูชา          ๔. การอยู่ในถิ่นอันสมควร ๕. เคยทำบุญมาก่อน ๖. การตั้งตนชอบ                      ๗. ความเป็นพหูสูต ๘. การรอบรู้ในศิลปะ                  ๙. มีวินัยที่ดี ๑๐.กล่าววาจาอันเป็นสุภาษิต ๑๑.การบำรุงบิดามารดา              ๑๒.การสงเคราะห์บุตร ๑๓.การสงเคราะห์ภรรยา              ๑๔.ทำงานไม่ให้คั่งค้าง ๑๕.การให้ทาน ๑๖.การประพฤติธรรม                  ๑๗.การสงเคราะห์ญาติ ๑๘.ทำงานที่ไม่มีโทษ                ๑๙.ละเว้นจากบาป ๒๐.สำรวมจากการดื่มน้ำเมา ๒๑.ไม่ประมาทในธรรมทั้งหลาย    ๒๒.มีความเคารพ ๒๓.มีความถ่อมตน                     ๒๔.มีความสันโดษ ๒๕.มีความกตัญญู ๒๖.การฟังธรรมตามกาล              ๒๗.มีความอดทน ๒๘.เป็นผู้ว่าง่าย                     

คำสอน ที่ควรจดจำ

กาลามสูตร พระสูตร ที่ พระพุทธเจ้า ทรงแสดง ท่าที่แห่งปัญญา 1 อย่าพึ่งเชื่อ ด้วยการฟังตามๆกันมา 2 อย่าพึ่งเชื่อ ด้วยการถือสืบๆกันมา 3 อย่าพึ่งเชื่อ ด้วยการเล่าลือ 4 อย่าพึ่งเชื่อ ด้วยการอ้างคัมภีร์ 5 อย่าพึ่งเชื่อ ด้วยการใช้วิธีการ ทางตรรกะ 6 อย่าพึ่งเชื่อ ด้วย การอนุมาน 7 อย่าพึ่งเชื่อ ด้วยการตรึกตรองตามแนวเหตุผล 8 อย่าพึ่งเชื่อ ด้วยการทึกทักเอาว่าเข้ากับทฤษฎีที่ตนรู้จัก 9 อย่าพึ่งเชื่อ ด้วยการคิดว่าสิ่งนั้นมีเค้าน่าเชื่อถือ น่าเป็นไปได้ 10 อย่าพึ่งเชื่อ ด้วยการถือว่าสมณะท่านนี้เป็น " ครู" ของเรา ต่อเมื่อใดก็ตาม ตระหนักชัดอย่างถ่องแท้ด้วยตนเองว่าสิ่งที่เราเข้าไปเกี่ยวข้องนั้นมีโทษ  มีคุณอย่างนี้ๆ แล้ว จึงควรยอมรับนับถือ หรือ ปฎิบัติตาม ถ้าคนส่วนมากในสังคมไทยเรารู้จักนำคำสอนนี้มาใช้คงดีไม่น้อย (สำหรับผมแล้วเป็นปฐมบทเลยก็ว่าได้เพราะจะเป็นบทอ้างอิงทุกเรื่องที่ท่านสอน โปรดดูที่ข้อ 10 อย่าพึ่งเชื่อ ด้วยการถือว่าสมณะท่านนี้เป็น " ครู" ของเรา แม้แต่ คำสอนนี้ก็อย่าพึ่งเชื่อ )