บทความของผมอันนี้ที่ตั้งชื่อป้ายเอาไว้ว่า "คนบ้า" เหตุผลหนึ่งในหลายๆเรื่อง คือเืรื่อง อยากจะให้มีใครซักคนมาอธิบายเรื่องธรรม ให้เข้าใจง่าย แต่ก็กลัวว่า ตัวเองไม่ได้รู้จริง แต่ดันทะลึ่งมาบอกชาวบ้าน ก็เลยคิดว่าถ้าอย่างนั้น ผมมันบ้าก็แล้วกัน เพราะถ้าผิด ก็แค่คนบ้ามาเล่าเรื่อง ถ้าถูก ก็จะได้สะกิดใจ
ตัวผมเองดันไปบนไว้เรื่องหนึ่งว่าจะบวช แต่ก็ไม่ได้บวช เลยต้องแก้บนด้วยการ "บวชใจ" อยู่พักใหญ่ก็ได้ทำการศึกษาเรื่องธรรมต่าง ทำให้เห็นว่า การอธิบายหลายๆเรื่องมันช่างน่า งง ยิ่งนัก มันน่าจะมีใครมาอธิบายในแบบ บ้านๆ ยุค 2009 แล้วเข้าใจก็คงดี
ว่าแล้วเมื่อมีโอกาศ ก็เลยขอลอง มั่ว ซะหน่อยเป็นไรไป ปัดโธ่ ! ก็คนบ้าจะเอาอะไรละ ?
แนวทางปฏิบัติธรรมตามหลักสติปัฏฐาน ๔ คือเป็นไงบ้างครับ รู้เรื่องไหม สมัยนี้คุยกันธรรมดา ยังไม่ค่อยจะรู้เรื่องกันเลย เจออย่างนี้เข้าไป ผมละ งองู 2 ตัวเลย
๑. กายานุปัสสนาสติปัฏฐาน
ฝึกหัดสติ พิจารณากายเพื่อให้รู้ตามความเป็นจริง
๒. เวทนานุปัสสนาสติปัฏฐาน
ฝึกหัดสติ กำหนดพิจารณา เวทนา คือความสุขและความทุกข์ ไม่สุข และไม่ทุกข์ อุเบกขา เพื่อให้รู้ตามความเป็นจริง
๓. จิตตานุปัสสนาสติปัฏฐาน
ฝึกหัดสติ กำหนดพิจารณาจิต เพื่อให้รู้ตามความเป็นจริง
๔. ธรรมานุปัสสนาสติปัฏฐาน
ฝึกหัดสติ กำหนดพิจารณาธรรม เพื่อให้รู้ตามความเป็นจริง
เนื้อความนั้น ท่านให้พวกเราเจริญสติ รู้พร้อม ตลอดเวลา อยู่กับสิ่งที่จับต้องได้
ไอ้พวก ไม่มีตัวไร้แก่นสาร รับรู้ตามจริงไม่ได้ให้ปล่อยไปก่อนนะ ไม่ว่าจะ พระเจ้า, เทพ, มาร, นรก, สวรรค์, เดี่ยวพอเข้าใจเรื่องแล้ว พระเจ้า เทพ มาร อะไรพวกนี้ ก็จะมาเองแหละ
การรู้เห็นตาม ตามที่เห็น ไม่ไปขยายความต่อละใช่เลย
ก็ให้เอาสตินั้น ปัก ก็เหมือนกับเอาไม้ไปปักลงบนอะไรทะนองนี้
ฐาน ก็พื้นที่จะปักสิ่งๆนั้น สรุปว่าให้เอา สติปักลงไปบน 4 อย่างนี้ตลอดเวลา
คือ กาย จะอะไร ก็ร่างกาย ตั้งแต่ปลายผม จรด ปลายเท้า ทั้งหมดนี้สนใจมันหน่อย แต่ท่านยังกล่าวรวมถึงลมหายใจเข้าออก ซึ่งก็มีอยู่ตลอดเวลา (ถ้ายังไม่ตาย)
อันต่อไปเรียกว่า สนใจซักหน่อย ว่าเวลาเราทำอะไรซักอย่างหนึ่ง อะไรเป็นแรงบันดานใจให้ทำสิ่งนั้นเพราะอะไร "หว่า ?"
"อะไรวะ" เป็นแรงบันดาลใจ ให้อยาก ซื้อหวย "อีนี่เป็นใครก็ไม่รู้มันยื่นอยู่ตั้งไกลทำไม เราต้องมองมันด้วย ผู้หญิงคนอื่น ก็มีอยู่แถวๆนั้น ทำไมต้องมองไปที่ยายนี่ด้วย"ลองถามตัวเองซิว่าอะไรเป็นแรงบันดาลใจในเรื่องต่างๆ ในชีวิตประจำวัน เอาสติเข้าไปไต่ตรองหน่อย
ไม่ใช่ว่าวันๆ เอาแต่นึกถึงดาราคนนั้น คนนี้อย่างเดียว ไต่ตรองหน่อยว่าทำไมเราต้องสนใจเจ้าดาราคนนี้ด้วยวะ
ฐานที่สาม เข้าไปรู้หน่อยซิ ดูมันหน่อยว่าตอนนี้ความคิดเราเป็นอย่างไร เพ้อเจ้อหรือเปล่า สงบไหม อยู่ระดับไหน ผ่อนคลายหรือไม่ ร้อนใจหรือเปล่า อย่าไปจมอยู่กับ ความทุกข์ หรือสุขนั้น ให้รู้ระดับ จิตเราว่ามันตอนนี้อยู่ชั้นไหน หว่า ?
อันสุดท้าย สำคัญยิ่ง มองให้เห็นธรรมชาติ ว่าธรรมชาติเป็นอย่างไร รู้เปล่าธรรมชาติคืออะไร ความจริงคือ อะไร
ถ้ามีครบ 4 นี้ คือปักลงไปได้ตลอดเวลา คือว่าจาก หลักนี้ ไปหลักนั้น ให้มันวนเวียนอยู่ใน 4 หลักนี้อย่าโดด ออกไปนอกหลัก แล้ว ละก็ ท่านกำลัง มี "กรรมฐาน" แล้ว ดีใจด้วย
กรรม = การกระทำ , ฐาน = พื้น คือการกระทำที่เป็นพื้นฐานในชีวิต (แปลแบบฉบับ ของผมเอง)
สิ่งเหล่านี้ ถ้าได้ลองแล้ว มันจะตีออกมาเป็นลูก ย่อยๆ ได้อีกมากมายถ้าเข้าใจวิธี ลักษณะ และ อาการนี้ได้
เอาละวันนี้ บ้าแค่นี้ก่อน เดี๋ยววันหน้า เกิดแรงบัลดานใจให้บ้าอีกก็จะมาพิมพ์อีก ++ ไปละ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น
บอกสิ่งที่คุณกำลังคิดอยู่